คุณรู้หรือไม่ว่าการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจในไทยสามารถเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการได้อย่างมหาศาล? การตลาด SEO และ SEM เป็นกลยุทธ์สองอย่างที่สามารถช่วยเพิ่ม Traffic เว็บไซต์ของธุรกิจได้อย่างมากทั้งสองจะมีวิธีการทำที่แตกต่างกัน จะเสียงธุรกิจของคุณต้องการ SEO หรือ SEM ในการก้าวสู่ความสำเร็จออนไลน์?
สิ่งที่ควรจำ:
- การตลาด SEO เป็นการใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์เพื่อดึงดูดผู้คนบนหน้าค้นหา
- การตลาด SEM เป็นกลยุทธ์ทางการโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงสุดในการค้นหา
- การทำ SEO ศึกษาโครงสร้างเว็บไซต์ ปรับปรุงหน้าเว็บเพจ สร้างเนื้อหาคุณภาพ เป็นต้น
- การทำ SEM ใช้เครื่องมือ Google Ads เพื่อซื้อโฆษณาและเพิ่มอัตราคลิก
- การเลือกใช้ SEO หรือ SEM ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจและเป้าหมายในการตลาดของคุณ
SEO vs SEM คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?
SEO (Search Engine Optimization) เป็นการใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ดึงดูดผู้คนบนหน้าค้นหา เพื่อทำให้ผู้คนเห็นว่าเนื้อหาบนเว็บไซต์ของธุรกิจสามารถตอบคำถามหรือช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้ดีที่สุด
SEM (Search Engine Marketing) เป็นกลยุทธ์ในการพาให้เว็บไซต์หรือเว็บเพจขึ้นสู่หน้าแรกของการค้นหาได้เลยทันที โดยจ่ายเงินเพื่อให้เว็บไซต์ถูกนำขึ้นไปแสดงผลการค้นหา
การทำ SEO ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์เพื่อให้เว็บไซต์ปรากฎในผลการค้นหาออร์แกนิค (organic search results) โดยไม่ต้องเสียเงินในการโฆษณา เทคนิคหลักของ SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรากฏในผลการค้นหาและเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม (traffic) โดยนำเสนอเนื้อหาที่เน้นความสอดคล้องกับคำค้นหาของผู้ใช้
ส่วน SEM ใช้กลยุทธ์การโฆษณาแบบเสียเงินในการเด่นขึ้นในหน้าผลการค้นหาทันทีที่ผู้ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การทำ SEM อาจพัฒนาผ่านทาง Google Ads เพื่อให้เว็บไซต์ปรากฎแบบโฆษณาบนหน้าผลการค้นหา (paid search results) แล้วเมื่อมีการคลิกเข้ามาที่โฆษณาจะถูกคิดค่าโฆษณาตามเหมาะสม
การทำ SEO
เมื่อเราพูดถึง การทำ SEO นั้นเราต้องให้ความสำคัญกับหลักการพัฒนาเว็บไซต์ที่มีระบบทางเทคนิคที่ดี (Technical SEO) เพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพและสามารถอินเด็กซ์ที่ดีในเครื่องมือค้นหาของ Google และผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังต้องมีการปรับปรุงหน้าเว็บเพจ (On-Page SEO) เพื่อให้เนื้อหาบนหน้าเว็บเพจสอดคล้องกับคำสำคัญที่เราต้องการที่จะเพิ่มความสนใจจาก Search Engine เติบโตอย่างมาก นอกจากนี้ยังต้องมีเนื้อหาที่มีคุณภาพและสร้างความน่าเชื่อถือ และในส่วนของการทำ Off-Page SEO คือการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ผ่านการสร้าง Backlink และกิจกรรมต่างๆ บนอินเตอร์เน็ตเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเรา
ด้วยการทำ SEO ให้ครบทุกส่วนที่กล่าวมาข้างต้น ธุรกิจทำให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหา เช่น Google ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการเพิ่ม Traffic เว็บไซต์ ซึ่งจะส่งผลให้มีโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
การทำ SEM
การทำ SEM (Search Engine Marketing) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการโฆษณาบนเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับแรกของการค้นหา (Paid Search) โดยผู้ประกอบการจ่ายเงินเมื่อผู้ใช้คลิกเข้ามาที่โฆษณาของเขา และเครื่องมือที่ใช้ในการทำ SEM ที่เป็นที่นิยมอย่างมากคือ Google Ads
การทำ SEM เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มแคมเปญการตลาดออนไลน์ของธุรกิจของคุณ ด้วยการจ่ายเงินตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณา ซึ่งสามารถแสดงผลบนหน้าผลการค้นหาทันที เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ค้นหาเข้าเว็บไซต์ของคุณและสั่งซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ
ประโยชน์ของการทำ SEM
1. เพิ่มโอกาสในการติดอันดับแรกบนหน้าการค้นหา: การทำ SEM ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับแรกบนหน้าผลการค้นหา เพราะผู้ใช้จะเห็นโฆษณาของคุณทันทีเมื่อทำการค้นหา นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับการเข้าชมจากผู้ค้นหามากขึ้น
2. โปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณ: การทำ SEM ช่วยให้คุณสามารถโปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณโดยตรงให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ทำให้เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การวิเคราะห์และการติดตามผลการโฆษณา: เครื่องมือการทำ SEM เช่น Google Ads มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์และติดตามผลการโฆษณาของคุณ ดังนั้นคุณสามารถปรับแก้แผนการตลาดอย่างคล่องตัวเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด
ประโยชน์ของการทำ SEM | การทำ SEM | การทำโฆษณาอื่นๆ |
---|---|---|
เพิ่มโอกาสในการติดอันดับแรกบนหน้าการค้นหา | ✔️ | ❌ |
โปรโมทสินค้าหรือบริการของคุณ | ✔️ | ❌ |
การวิเคราะห์และการติดตามผลการโฆษณา | ✔️ | ❌ |
ดังนั้น การทำ SEM เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการตลาดออนไลน์ซึ่งช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสสำเร็จและเติบโตอย่างมีคุณภาพ
สรุป
การทำ SEO และ SEM เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มความเห็นอกเห็นใจและอันดับของเว็บไซต์ธุรกิจในการค้นหาบน Search Engine เช่น Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
คำตอบว่า SEO หรือ SEM ใดจะเหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจและวัตถุประสงค์ของการตลาดของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งการทำ SEO เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นเอกลักษณ์ของเว็บไซต์ ในขณะที่การทำ SEM เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเร่งแสดงผลและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการอย่างรวดเร็ว
ในกรณีที่ธุรกิจต้องการคำแนะนำและการดูแลโฆษณาอย่างมืออาชีพ สามารถพิจารณาใช้บริการจากเอเจนซีด้านการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Agency) หรือสมัครบริการจาก Google Ads เพื่อได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสูงสุดในการโฆษณาธุรกิจ