การตลาดออนไลน์ผ่าน SEO และ SEM ในไทย

ホーム » digital-marketing » seo » การตลาดออนไลน์ผ่าน SEO และ SEM ในไทย
seo sem
,

ตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาการค้าขายออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้คนหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น หน้าร้านออนไลน์มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของธุรกิจ การทำการตลาดออนไลน์เช่น SEM (Search Engine Marketing) เป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาออนไลน์ เช่น Google และ Yahoo การทำ SEM ที่ดีจะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับด้านบนของตัวช่องทางค้นหา และเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าดูเว็บไซต์มากขึ้น

สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากบทความนี้

  • วิธีทำ SEO ใน Search Engine ชื่อ Google
  • การทำ SEM แบบ Pay per Click (PPC) และ SEO (Organic Search)
  • การเปรียบเทียบ SEO กับ SEM

การทำ SEO ใน Search Engine ชื่อ Google

SEO (Search Engine Optimization) เป็นเทคนิคการใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์เพื่อดึงดูดผู้คนบนหน้าค้นหา เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับด้านบนของผลการค้นหา ซึ่งประกอบด้วย 4 แกนหลัก คือ Technical SEO, On-Page SEO, Off-Page SEO, และ Content.

การทำ SEO ในเว็บ Search Engine ชื่อ Google เน้นการประเมินคุณภาพเว็บไซต์และการมี Keyword ที่ถูกค้นหา โดย Google ใช้อัลกอริทึมต่างๆ เพื่อวิเคราะห์และประเมินเว็บไซต์ว่ามีคุณภาพเท่าใด วิธีทำ SEO ใน Google คือการปรับแต่งเว็บไซต์ตามเกณฑ์ของ Google และสร้างเนื้อหาที่เสริมความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

Technical SEO

Technical SEO เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีโครงสร้างที่เป็นมาตรฐาน สอดคล้องกับเครื่องมือค้นหา Google อย่างเช่นการปรับแต่งโค้ด HTML, เพิ่มพื้นที่พักข้อมูลให้เว็บไซต์ได้รับการโหลดเร็ว และกำหนด URL ให้ง่ายต่อการเข้าถึง

On-Page SEO

On-Page SEO เน้นการปรับแต่งเนื้อหาภายในเว็บไซต์ เช่น การเพิ่ม Keyword ที่ถูกค้นหาในหัวเรื่อง คำอธิบายเว็บไซต์ และเนื้อหา การใช้คำสำคัญในเนื้อหา รวมถึงการใช้ภาพและวิดีโอที่เกี่ยวข้อง

Off-Page SEO

Off-Page SEO เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์จากแหล่งอื่น ๆ โดยเรียกว่า Backlinks ซึ่งเป็นการอ้างอิงเว็บไซต์ด้วยลิงก์จากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ การได้รับ Backlinks จากเว็บไซต์คุณภาพสูงในอุตสาหกรรมของคุณจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

Content

Content เป็นสิ่งสำคัญในการทำ SEO เนื่องจากพวกเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มีคุณภาพ Content ที่มีคุณภาพสามารถดึงดูดผู้คนและเพิ่มโอกาสในการติดอันดับในผลการค้นหา

การทำ SEM แบบ Pay per Click (PPC) และ SEO (Organic Search)

ในการทำการตลาดออนไลน์ การโฆษณาออนไลน์เป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจของคุณ การทำ SEM (Search Engine Marketing) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการโฆษณาออนไลน์ผ่านการซื้อพื้นที่บนเว็บไซต์ของ Search Engine โดยการประมูล keyword เพื่อแสดงโฆษณาให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

กลยุทธ์ SEM แบบ Pay per Click (PPC) เป็นการซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ Search Engine โดยจ่ายเงินไปตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณานั้น โดยทำการประมูลคำสำคัญเพื่อให้โฆษณาของคุณปรากฏขึ้น

ในขณะเดียวกัน SEO (Organic Search) เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาในเว็บเพื่อให้ได้คะแนนคุณภาพที่ดีจาก Search Engine ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในตำแหน่งที่โดดเด่นในผลการค้นหา

การทำการตลาดออนไลน์ด้วย SEM แบบ Pay per Click (PPC) และ SEO (Organic Search) จะเป็นกลยุทธ์ที่ทำงานพร้อมกัน ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเพิ่มการเข้าถึงและยกระดับความน่าเชื่อถือ

ตัวอย่าง SEM แบบ Pay per Click (PPC) และ SEO (Organic Search) มีดังนี้:

SEM แบบ Pay per Click (PPC) SEO (Organic Search)
การซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บ Search Engine การปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาในเว็บ
การประมูลคำสำคัญเพื่อแสดงโฆษณา การเพิ่มคะแนนคุณภาพเว็บไซต์จาก Search Engine
จ่ายเงินตามจำนวนครั้งที่คลิกโฆษณา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีการคลิก

การทำการตลาดออนไลน์ด้วย SEM แบบ Pay per Click (PPC) และ SEO (Organic Search) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการเข้าถึงและความน่าเชื่อถือที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการคลิกและเพิ่มยอดขาย

การทำโฆษณาออนไลน์

การทำ SEO vs SEM

การทำการตลาดออนไลน์ผ่าน SEO (Search Engine Optimization) และ SEM (Search Engine Marketing) เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสขายในตลาดออนไลน์ให้กับเว็บไซต์ของคุณ

SEO เน้นกลยุทธ์การทำ Organic Search เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงๆ ในผลการค้นหา โดยการปรับปรุงเนื้อหาในเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และเข้าใจง่ายต่อผู้ใช้งาน การทำ SEO ยังมีการวิเคราะห์และวางกลยุทธ์การใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้อง และการปรับแต่งโครงสร้างของเว็บไซต์

อีกทั้ง การทำ SEM เน้นการทำ Paid Search และ Organic Search โดยการซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บ Search Engine ที่คิดค่าโฆษณาตามจำนวนคลิก ในขณะที่การทำ Organic Search เน้นการปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาให้ได้คะแนนคุณภาพที่ดี ทั้ง SEO และ SEM เป็นรูปแบบการตลาดคนละประเภท แต่การทำ SEM ที่ดำเนินกลยุทธ์แบบทั้ง Paid Search และ Organic Search มีประสิทธิภาพมากกว่าการทำแค่ SEO เพียงอย่างเดียว

ความแตกต่างระหว่าง SEO และ SEM

ตารางด้านล่างนี้จะแสดงความแตกต่างระหว่าง SEO และ SEM:

SEO SEM
เน้นการทำ Organic Search เน้นการทำ Paid Search และ Organic Search
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ มีค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์
สร้างความน่าเชื่อถือในตลาด เพิ่มโอกาสขายผ่านการโฆษณา

การทำ SEO vs SEM

การทำ SEO และ SEM เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ แต่ต้องใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณและเป้าหมายผู้ใช้งาน เลือกใช้ SEO เมื่อคุณต้องการปรับปรุงเว็บไซต์และเนื้อหาให้มีคุณภาพ และเลือกใช้ SEM เมื่อคุณต้องการเพิ่มโอกาสขายผ่านการโฆษณา การแบ่งเวลาระหว่าง SEO และ SEM อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในการทำการตลาดออนไลน์

สรุป

การตลาดออนไลน์ผ่าน SEO และ SEM เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสขายในตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน การทำ SEO เป็นการปรับปรุงเว็บไซต์และสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเพื่อได้รับการรู้จักจากตัวช่องทางค้นหา ทำให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับด้านบนของผลการค้นหามากขึ้น โดยทำให้ผู้ใช้เจอเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าดูเว็บไซต์มากขึ้น

ส่วน SEM เป็นการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาออนไลน์ เช่น Google และ Yahoo ซึ่งรวมทั้งการทำ Paid Search และ Organic Search เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการโฆษณาออนไลน์ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจอย่างมากมาย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของคุณอีกด้วย

การแบ่งเวลาระหว่าง SEO และ SEM จะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และแผนกลยุทธ์ของธุรกิจของคุณ หากต้องการการเพิ่มโอกาสในการมีองค์กรที่มั่นคงในอนาคต การทำ SEO เป็นตัวเลือกที่คุณควรใส่ความสำคัญ ในขณะที่ SEM เป็นวิธีเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจทันสมัยและเติบโตอย่างรวดเร็ว

FAQ

การตลาดออนไลน์ผ่าน SEO และ SEM คืออะไร?

SEO (Search Engine Optimization) เป็นเทคนิคในการปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาเพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าค้นหา ส่วน SEM (Search Engine Marketing) เป็นกลยุทธ์การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาออนไลน์ เช่น Google และ Yahoo

SEO และ SEM มีความแตกต่างกันอย่างไร?

SEO เน้นการปรับแต่งเว็บไซต์และสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้คะแนนคุณภาพอันดับดีบนเครื่องมือค้นหา ส่วน SEM รวมทั้งการทำโฆษณาออนไลน์แบบเสียค่าโฆษณาบนเว็บค้นหาในรูปแบบ PPC (Pay per Click) และการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนค้นหา

SEO และ SEM มีประสิทธิภาพอย่างไรในการเพิ่มโอกาสขาย?

การทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ส่วนการทำ SEM ในรูปแบบ PPC จะช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าดูเว็บไซต์มากขึ้น ซึ่งทั้งสองกลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพในการเพิ่มโอกาสขายในตลาดออนไลน์

SEO และ SEM ใช้เครื่องมือการทำการตลาดใดบ้าง?

SEO เน้นการปรับแต่งเว็บไซต์และผลิตเนื้อหาคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ การวิเคราะห์และค้นหาคำสำคัญ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเว็บไซต์ การสร้างลิงก์ระดับสูง และอื่นๆ ส่วน SEM ใช้เครื่องมือการโฆษณาออนไลน์บนเว็บค้นหา เช่น Pay per Click (PPC) และการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนค้นหา

การทำ SEO และ SEM มีประโยชน์ในการเพิ่มโอกาสขาย?

ทั้งการทำ SEO และ SEM เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสขายในตลาดออนไลน์ ทำ SEO เน้นการปรับปรุงเว็บไซต์และสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้คะแนนคุณภาพดีและติดอันดับบนหน้าค้นหา ส่วน SEM รวมทั้งการทำ Paid Search และ Organic Search จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับและเพิ่มโอกาสขาย

สามารถทำ SEO และ SEM พร้อมกันได้หรือไม่?

สามารถทำ SEO และ SEM พร้อมกันได้ เราสามารถแบ่งเวลาและงบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์ได้ เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์และเนื้อหาเพื่อ SEO และใช้งบประมาณในการโฆษณาบนเว็บค้นหาในรูปแบบ PPC พร้อมทั้งปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนค้นหา แบบพร้อมกันนี้จะช่วยยกระดับเว็บไซต์ให้ดีขึ้น

ลิงก์ที่มา